ในเมื่อไล่นกพิราบยังไงก็ไล่ไม่ไป จะใช้ เครื่องมือไล่นกพิราบ และ อุปกรณ์ไล่นกพิราบ แบบไหนถึงจะไล่ได้จริง และพอไล่นกพิราบไปแล้ว สักพักนกพิราบก็กลับมาอีก ทำยังไง ? ถึงจะไล่นกพิราบออกไปได้โดยถาวร ไม่ให้กลับมาที่เดิมอีก คำตอบคือ สิ่งที่นกพิราบกลัวนั้น เท่าที่ทราบก็มีคร่าวๆดังนี้
-
นกพิราบกลัวศัตรูของนกพิราบเอง
ศัตรูของนกพิราบในที่นี่คือ เหยี่ยว และ เหยี่ยวนักล่า หรือ กลัวนกพิราบด้วยกันเอง เช่นกลัวจ่าฝูง กลัวตัวที่อยู่ในฝูงเดียวกัน กลัวนกพิราบสายพันธุ์อื่นที่ต่างจากสายพันธุ์ของตัวเอง กลัวนกพิราบฝูงอื่นๆมาแย่งถิ่นฐานที่อยู่อาศัยที่ตนเคยอยู่
-
นกพิราบกลัวความไม่ปลอดภัยของแหล่งที่อยู่อาศัย
แหล่งที่อยู่ของนกพิราบ สำหรับนกพิราบนั้นความปลอดภัยของนกพิราบเป็นสิ่งที่นกพิราบกลัวเช่นกัน เช่นที่อยู่ที่คิดว่านกพิราบปลอดภัยต้องการอยู่ที่นี่ อาศัยหลับนอนสร้างรังมีลูกมีหลานอยู่ในที่แห่งนี้นกพิราบก็จะทำเป็นที่อยู่แบบถาวร ถ้านกพิราบรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย ไม่เหมาะกับเป็นแหล่งอาหารที่อยู่อาศัยที่พักพิง นกพิราบก็จะไม่มาอาศัยอยู่แบบถาวร แต่อาจจะแวะมาหาบ้าง กรณีเป็นที่พักของนกพิราบชั่วคราว หรือ แหล่งอาหารนกพิราบเพียงชั่วคราวเท่านั้น แต่การมาอยู่เพียงชั่วคราวนั้นก็สร้างปัญหาให้ได้เช่นกัน เช่น มูลของนกพิราบ เพราะนกพิราบหรือนกชนิดต่างๆนั้น มีระบบย่อยอาหารที่เร็ว ลำไส้สั้นต้องขับถ่ายอยู่บ่อยๆ ดังนั้นถ้าพื้นที่ไหนมีนกพิราบมาเกาะก็จะมีมูลของนกพิราบแถมมาให้ด้วย เพราะฉะนั้นปัญหาเหล่านี้จึงเป็นเกิดคำถามต่อมาว่า มีวิธีไล่นกพิราบยังไง แบบไหนบ้าง ให้ได้ผล
-
[quads id=1]
นกพิราบกลัวกลิ่น การสัมผัส
คำว่ากลิ่นและการสัมผัสในที่นี้คือ กลิ่นที่นกพิราบไม่ชอบนั่นเอง หรือที่เรียกกันว่า เจลไล่นกแบบกลิ่น เช่นเมื่อนกพิราบได้กลิ่นอะไรที่ทำให้นกพิราบระคายเคืองประสาทการดมกลิ่น นกพิราบไม่ชอบ นกพิราบไม่อยากเข้าใกล้ ก็ทำให้พื้นที่นั้นไม่มีนกพิราบมาอาศัยอยู่แบบถาวร แต่นกพิราบแต่ล่ะตัวหรือแต่ล่ะฝูงก็จะบินเข้ามาเกาะพื้นที่นั้นก่อนอยู่เรื่อยๆ พอสักพักได้กลิ่นที่ไม่ชอบทำให้ระคายเคือง นกพิราบก็จะบินหนีไปเองและนกพิราบตัวนั้นหรือฝูงนั้นๆก็จะไม่บินมาเกาะอีกเลย จนกว่ากลิ่นนั้นจะหายไป
-
นกพิราบกลัวการได้ยินเสียงหรือคลื่นความถี่
เสียงไล่นก และ คลื่นความถี่ไล่นก ในที่นี้คือ เสียงที่นกพิราบไม่ชอบ เสียงที่นกพิราบได้ยินแล้วรู้สึกไม่ปลอดภัย คลื่นความถี่ที่นกพิราบไม่ชอบ เสียงศัตรูของนกพิราบ เช่น เสียงเหยี่ยวนักล่า เสียงนกพิราบโดนทำร้าย เสียงเตือนภัยจากฝูงนกพิราบด้วยกันเอง เสียงสัญญาณต่างๆ เสียงเหล่านี้จะทำให้นกพิราบรู้สึกว่า พื้นที่ที่นกพิราบอาศัยอยู่นั้น ไม่ปลอดภัยกับฝูงนกพิราบแล้ว จึงทำให้นกพิราบเกิดความหวาดระแวง ไม่อยากจะอาศัยอยู่ในพื้นที่เดิมที่เคยอยู่ แล้วนกพิราบก็จะบินไปหาที่อยู่ใหม่ ที่อยู่ซึ่งนกพิราบคิดว่าปลอดภัยกว่าที่อยู่เดิม และพอเวลาผ่านไปสักพักนกพิราบก็จะค่อยๆลดจำนวนลงจากพื้นที่อยู่เดิม ที่เคยอาศัยอยู่ จนนกพิราบต้องอพยพเพื่อออกไปหาที่อยู่ใหม่ที่คิดว่าปลอดภัยกว่า จากนั้นในพื้นที่นั้นก็จะไม่มีนกพิราบอีกเลย และเมื่อนกพิราบฝูงเก่าอพยพออกไปจนหมดแล้ว นกพิราบฝูงใหม่ๆที่อพยพมาจากที่อื่นเพื่อหาที่อยู่ใหม่เช่นกัน ก็จะบินผ่านมาดูพื้นที่ ที่ซึ่งนกพิราบฝูงเก่าที่อพยพไปแล้วแต่เดิมเคยอาศัยอยู่ พอบินผ่านมาเจอเสียงต่างๆเหล่านี้หรือคลื่นความถี่ที่นกพิราบกลัวหรือไม่ชอบ นกพิราบฝูงใหม่ก็จะไม่กล้าเข้ามาในพื้นที่นี้อีก เพราะรู้สึกไม่ปลอดภัย ไม่เหมาะสำหรับเป็นที่อยู่อาศัยและหากินอีกต่อไป ตราบใดที่มีเสียงหรือความถี่นั้นอยู่ก็จะไม่มีนกพิราบเข้ามารบกวนอีก
-
นกพิราบกลัวเสียงที่ทำให้ตกใจ
เสียงที่ทำให้นกพิราบตกใจ เช่น เสียงจุดประทัด เสียงสัญญาณเตือนภัย เสียงสัญญาณนิรภัย เสียงระเบิด ฯลฯ เสียงเหล่านี้จะทำให้นกพิราบตกใจไปชั่วขณะ เมื่อนกพิราบได้ยินเสียงอาจจะบินวนออกไปอีกที่หนึ่งซึ่งไม่ไกลจากพื้นที่เดิม แล้วสักพักก็จะบินวนกลับมาลงที่เดิมที่เคยอยู่ และ เสียงเหล่านี้นั้นไม่ได้ทำให้นกพิราบนั้นกลัวแต่อย่างใด ทำได้แค่เพียงให้นกตกใจไปชั่วขณะเท่านั้นเอง
-
นกพิราบกลัวการมองเห็น
การมองเห็นในที่นี้ คือ การมองเห็นในสิ่งที่ผิดแปลกตา ที่นกพิราบกลัวและไม่ชอบ วัตถุที่นกพิราบคิดว่าเป็นศัตรูของนกพิราบ ทำให้นกพิราบรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย แสงที่ผิดแปลกไปจากธรรมชาติ หรือแสงและรังสีต่างๆ หลอดไฟแสงสีต่างๆ เช่น แสงสะท้อนจากวัถตุใดไปรบกวนการมองเห็นหรือรบกวนตัวของนกพิราบ อาทิ แสงสะท้อนจากแผ่นซีดี เทปที่มีสีสันต่างๆและการสะท้อนแสงที่ดี เช่น เทปสีรุ้ง
-
นกพิราบกลัวโดยสัญชาตญาณการเตือนตัวเอง
ปัจจัยต่างๆเหล่านั้นไม่มีใครทราบแน่ชัด เพราะเนื่องจากเป็นสัญชาตญาณของนกพิราบเตือนตัวเองว่าตอนนั้นนกพิราบกลัวอะไร เห็นสิ่งใด ได้ยินเสียงอะไร หรือได้กลิ่นอะไร ฯลฯ นอกจากตัวของนกพิราบเองที่จะทราบว่าแท้จริงแล้วในตอนนั้น เวลานั้นนกพิราบกลัวอะไร หรืออาจจะตกใจเมื่อเห็นนกพิราบตัวอื่นๆในฝูงเดียวกันบินหนีไป ตัวเองก็เลยบินหนีตามไป ถ้าให้คนอย่างเราๆไปถามนกพิราบว่ากลัวอะไรในขณะนั้น คงไม่ไหวแน่ๆและคงเป็นไปไม่ได้ เพราะถ้าคุยกันรู้เรื่องคนอย่างเราๆก็คงไม่ต้องหาวิธีไล่นกพิราบ หรือหาเครื่องมือไล่นกพิราบและอุปกรณ์ไล่นกพิราบต่างๆมาใช้ไล่นกพิราบกันหรอกใช่ไหม
ดังนั้นพอสรุปได้คร่าวๆแล้วว่านกพิราบนั้นกลัวอะไรและไม่ชอบสิ่งใด
นกพิราบก็เป็นสิ่งมีชีวิตเหมือนกับสัตว์โลกสายพันธุ์อื่นๆ มีประสาทการรับรู้ รูป กลิ่น เสียง การสัมผัส การมองเห็น เมื่อนกพิราบป่วย บาดเจ็บ เป็นโรค บินไปไหนไม่ได้ หรือไม่พร้อมที่จะไปไหนในเวลานั้น (อาจจะอยู่ตัวเดียวลำพังหรืออยู่กัน 3-5 ตัวต่อฝูง) แม้ว่าจะเจอ ศัตรู รูป กลิ่น เสียง การสัมผัส การมองเห็น ใดๆเหล่านี้ ที่นกไม่ชอบรู้สึกไม่ปลอดภัย นกพิราบก็จะยังไม่ไปไหน จนกว่าจะหายป่วย หรือหายจากอาการบาดเจ็บนั้นก่อน หรืออาจจะโดนจ่าฝูงขับไล่ออกจากฝูงแล้วยังหาฝูงใหม่หรือที่อยู่ใหม่ไม่ได้นั่นเอง
เพราะฉะนั้นแล้ว วิธีไล่นกนั้น ไม่มีถูก ไม่มีผิด อยู่ที่ว่าใช้วิธีไล่นกพิราบแล้วได้ผลมากกว่ากันและใช้วิธีไหนไล่แล้วได้ผลในระยะยาว ไม่ต้องคอยมาไล่กันอยู่บ่อยๆก็ไม่ต้องเป็นอันทำมาหากินกันพอดี วิธีไล่แบบสันติวิธีและได้ผลดีก็มีมาก ไม่ทำร้ายไม่ทำอันตรายกับนกเพียงแค่ไล่นกให้ไปจากพื้นที่เท่านั้น เพียงแค่ทำให้นกเกิดความกลัว ความรำคาญ รู้สึกไม่ปลอดภัยไม่อยากอยู่ในพื้นที่นี้แล้ว วิธีไล่นกพิราบแบบสันติวิธีนี้ก็จะเป็นผลดีทั้งคนและนกด้วย
มาสรุปสั้นๆแล้วกันว่าสิ่งที่นกพิราบกลัวนั้นหลักๆแล้วมีอะไรบ้าง
- นกพิราบกลัวศัตรูของนกพิราบ หรือ กลัวนกพิราบด้วยกันเอง
- นกพิราบกลัวความปลอดภัยของแหล่งที่อยู่อาศัย
- นกพิราบกลัวกลิ่น การสัมผัส ที่นกพิราบไม่ชอบ
- นกพิราบกลัวเสียง กลัวคลื่นความถี่ที่นกพิราบไม่ชอบ
- นกพิราบกลัวเสียงที่ทำให้ตกใจ
- นกพิราบกลัวการมองเห็นในสิ่งที่ผิดปกติแปลกตา สิ่งที่ผิดแปลกไปจากธรรมชาติ
- นกพิราบกลัวโดยสัญชาตญาณการเตือนตัวเองของนกพิราบ